
ใครที่เป็นคอซีรีย์ญี่ปุ่นยกมือขึ้นเร็ว! เพราะวันนี้เรามีซีรีย์หลากหลายแนวมาฝากกัน ไม่ว่าจะเป็น ดราม่า, โรแมนติก, ระทึกขวัญ กับ 10 ซีรีย์ญี่ปุ่น Netflix..สนุกครบ จบฟิน! ที่คัดมาแล้วว่าต้องถูกใจใครหลายๆคน อย่างแน่นอน ถ้าไม่เชื่อ ลองไปเช็คลิสกับ 10 อันดับกันเล้ย!
1. Our Sister’s Soulmate
คะแนน IMDb : 7.4
Our Sister’s Soulmate ชื่อไทย “พี่สาวลุ้นรัก” เรื่องนี้เป็นแนว ครอบครัว สามารถดูได้ทุกเพศทุกวัย เรียกว่าเป็นซีรีย์แนวฟิลกู๊ดก็คงไม่ผิด ฉายปี 2020 และตัวละครในเรื่องนั้นยังเป็นแนวธรรมดา และใช้ชีวิตแบบธรรมด๊า..ธรรมดา แบบที่เราๆ เห็นได้ทั่วไป แต่ตัวละครนั้นลึกๆ แล้วก็มีปมในใจกันอยู่ และต้องการใครสักคนมาช่วยเยียวยาหัวใจให้กลับมาชุ่มชื่นได้อีกครั้ง ยิ่งตัวนางเอกของเรื่อง “คาสุมิ อะริมุระ” นั้น เรื่องการแสดงของเธอมีเสน่ห์และน่ารักมากๆ เรียกได้ว่า ใครได้ดูแล้วตกหลุมรักเธอคนนี้ได้ไม่ยาก
เรื่องย่อ
เป็นเรื่องราวของ “โมโมโกะ” (คาสุมิ อะริมุระ) ที่นอกจากจะต้องรับหน้าที่เป็นเสาหลักของครอบครัว เพราะแม่เธอเสียไปตั้งแต่ ม.6 แล้ว ยังต้องดูแลน้องชายอีก 3 คน จึงทำให้ “โมโมโกะ” ต้องทำงานพิเศษในห้างเพื่อหาเงินมาเลี้ยงดูครอบครัว จนกระทั่งได้เจอกับ “มานาโตะ โยซิโอกะ” (เคนโตะ ฮายาชิ) ที่ทำงานอยู่ห้างเดียวกัน ทำให้เธอตกหลุมรักเขาในทันที แต่ตัว “มานาโตะ” นั้นมีปมบางอย่างในใจที่ไม่กล้าพอจะรักใครสักคน ดังนั้นต้องมาลุ้นกันว่าความรักระหว่างเธอกับเขานั้นจะลงเอยกันอย่างไร?
ดูได้ที่ลิงค์ : www.netflix.com
2. Switched
คะแนน IMDb : 7.1
Switched ชื่อไทย “ผลัดกันเป็นสาวป๊อป” เรื่องนี้เป็นแนว ดราม่า ฉายปี 2018 ซึ่งมีพล็อตเรื่องที่น่าติดตามมากๆ กับการสลับร่างของ 2 เด็กสาวที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง สุดขั่ว รวมถึงตัว 2 นักแสดงอย่าง “คายะ คิยาฮาร่า” และ “มิอุ โทมิตะ” ที่ต้องมาสลับร่างกันนั้น ก็เล่นได้เนียนไม่มีสะดุดเลย รวมถึงเรื่องนี้ยังให้แง่คิดกับวัยรุ่น วัยที่มักจะบูลลี่กันได้ง่ายเสียเหลือเกินอีกด้วย
เรื่องย่อ
เป็นเรื่องราวของ “อายูมิ” (คายะ คิยาฮาร่า) เด็กสาวที่เพียบพร้อมไปซะทุกอย่าง ทั้งรูปร่าง หน้าตา, ฐานะทางบ้าน และยังเป็นขวัญใจเพื่อนๆ อีกต่างหาก แต่แล้วในวันที่มีพระจันทร์สีเลือด “อูมิเนะ เซนโกะ” (มิอุ โทมิตะ) เพื่อนร่วมชั้นสาวอวบก็โทรมาหา “อายูมิ” เพื่อหลอกล่อให้ไปดูเธอกระโดดตึก หลังจากนั้น “อายูมิ” ก็สลบไป พอตื่นขึ้นมาอีกที พบว่าตัวเองนั้นอยู่ในร่างของ “เซนโกะ” จึงทำให้ชีวิตหลังจากนี้ของ “อายูมิ” เปลี่ยนไปไม่ป๊อปเหมือนเดิม และยังต้องมาเสีย “เคนจิโร่” (โทฮิโร่ คามิยามะ) แฟนสุดหล่อ จากการสลับร่างครั้งนี้ด้วย
ดูได้ที่ลิงค์ : www.netflix.com
3. Ossan’s Love
คะแนน IMDb : 6.9
Ossan’s Love ชื่อไทย “รักครั้งใหม่หัวใจจะวาย” เรื่องนี้เป็นแนว โรแมนติก, คอมเมดี้, ดราม่า ที่ถ้าสมัยนี้คงเรียกได้เต็มปากว่าเป็นซีรีย์วาย แต่เมื่อเรื่องนี้ฉายในปี 2018 ซีรีย์วาย หรือซีรีย์ชายรักชายยังไม่ค่อยบูมเท่าไหร่นักในญี่ปุ่น ที่พอดูแล้วอาจจะไม่ได้จิ้น ฟินจิกหมอนมากนัก แต่จะเน้นไปที่ความตลกโอเวอร์แอ็คติ้งของตัวละครซะมากกว่า อย่างหัวหน้าในเรื่องนี้ ที่แม้อายุจะเข้าวัยคุณลุงแล้ว แต่ดันมีความรักกับหนุ่มรุ่นน้อง ที่ดูแล้วไม่ได้ออกมาน่าเกลียดแต่อย่างใด กลับมีความตลกน่ารัก แถมคนดูยังได้อมยิ้มอยู่หลายฉากอีกด้วย
เรื่องย่อ
เป็นเรื่องราวของ “ฮารุตะ โซอิจิ” (เคอิ ทานากะ) ที่ทำงานเป็นนายหน้าขายบ้าน ซึ่งมีความสงสัยในตัว “คุโรซาว่า มุซาชิ” (โคทาโระ โยชิดะ) หัวหน้าของเขาเอง ที่ดูเหมือนว่ามีลับลมคมนัยอะไรซ่อนอยู่ แต่แล้วสิ่งที่ทำให้เขาต้องตะลึง เมื่อพบว่าในห้องทำงานของหัวหน้ากลับมีรูปวาดของเขาเต็มไปหมด แล้วทุกอย่างก็กระจ่างเมื่อหัวหน้าของเขามาสารภาพรัก แต่เรื่องราวกลับวุ่นวายเมื่อ “มากิ เรียวตะ” (เคนโตะ ฮายาชิ) เพื่อนร่วมงานก็ดันมาสารภาพรักกับ “ฮารุตะ” อีกคนซะนี่
ดูได้ที่ลิงค์ : www.netflix.com
4. Perfect world
คะแนน IMDb : 6.9
Perfect world ชื่อไทย “ปาฏิหาริย์ โลกใบนี้ที่มีเธอ” เรื่องนี้เป็นแนวโรแมนติก ที่ฉายเมื่อปี 2019 เรื่องนี้ถ่ายทอดออกมาได้ประทับใจคนดูสุดๆ เพราะไม่ได้มีแค่ความรักของหนุ่มสาวเท่านั้น แต่ถ่ายทอดออกมาให้เห็นถึงความรักที่หลากหลาย ทั้งความรักของคนในครอบครัว หรือความรักระหว่างเพื่อนก็ตาม และที่ทำให้คนที่ดูเรื่องนี้ประทับใจ เห็นจะเป็นเรื่องราวความรักของพระเอก-นางเอก ที่พร้อมจับมือฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ แม้ร่างกายจะไม่ได้สมบูรณ์เต็มร้อยก็ตาม
เรื่องย่อ
เป็นเรื่องราวของ “อิทสึกิ อายุคาวะ” (อิวาตะ) นักบาสเก็ตบอลรักแรกของ “สึกุมิ คาวานะ” (ฮานะ ซูกิซากิ) ที่เธอแอบชอบเขาแม้ว่าเขาจะมีแฟนอยู่แล้วก็ตาม ตัว “อิทสึกิ” นั้น ฝันที่จะอยากจะเป็นสถาปนิก แต่แล้วความฝันของเขาก็ต้องดับลง เมื่อเขาประสบอุบัติเหตุจนทำให้ร่างกายพิการ เดินไม่ได้ ทำให้ต้องใช้ชีวิตอยู่บนวิลแชร์ตลอด ตัว “คาวานะ” เองก็ไม่ได้พบเขาตั้งแต่เรียนจน จนมาพบกันโดยบังเอิญในการนัดพบทีมสถาปนิก จนเห็นว่าเขาต้องนั่งอยู่บนวิลแชร์ ทำให้เธอตกใจมาก และเกิดคำถามว่าอะไรเกิดขึ้นกับชีวิตของเขากัน
ดูได้ที่ลิงค์ : www.netflix.com
5. Sunny : Our Hearts Beat Together
คะแนน IMDb : 6.3
Sunny : Our Hearts Beat Together ชื่อไทย “วันนั้นวันนี้เพื่อนกันตลอดไป” เรื่องนี้อาจจะถูกใจสาวๆ หลายๆ คน ก็ได้ เพราะเรื่องนี้นำเสนอเรื่องราวความรัก ความผูกพันของแก๊งเพื่อนสาว ตั้งแต่วัยกระเตาะ จนกลับมารวมตัวอีกครั้งในวันที่ทุกคนเป็นผู้ใหญ่กันหมดแล้ว เรื่องนี้เป็นแนวดราม่า, คอมเมดี้ ฉายเมื่อปี 2018 ที่ดูแล้วเชื่อว่าต้องแอบยิ้มในใจเป็นแน่ แถมยังได้ย้อนนึกไปถึงวัยเด็ก และต้องบอกว่าเป็นแนวนี้ถือเป็นแนวถนัดของซีรีย์ญี่ปุ่นซะด้วย
เรื่องย่อ
เรื่องราวของ “เซริกะ” (ยูกะ อิตายะ) เวิร์คกิ้งวู้แมนที่ทำแต่งาน จนไม่ได้ติดต่อกับเพื่อนเก่าสักเท่าไหร่ มาวันหนึ่ง เธอได้เจอกับ “นามิ” (เรียวโกะ ชิโนฮาระ) เพื่อนเก่าจากชมรม “ซันนี่” โดยบังเอิญ และเธอก็ได้บอกกับ “นามิ” ว่าเธอเป็นมะเร็งและมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน และสิ่งหนึ่งที่อยากทำก่อนตายคือ ได้ร้องเพลง Tsuyoi Kimochi, Tsuyoi Ai ร่วมกับเพื่อนๆ ชมรม “ซันนี่” อีกซะครั้ง “นามิ” จึงทำให้ความต้องการของ “เซริกะ” ให้เป็นจริง ด้วยการติดต่อเพื่อนเก่าให้กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง เพื่อย้อนความทรงจำดีๆ ในอดีตร่วมกัน
ดูได้ที่ลิงค์ : www.netflix.com
6. The Many Faces of Ito
คะแนน IMDb : 5.2
The Many Faces of Ito เรื่องนี้เป็นแนวดราม่า, คอมเมดี้ ฉายเมื่อปี 2018 ความน่าสนใจของเรื่องอยู่ที่ผู้ชายที่ชื่อ “อิโตะ” ที่เข้ามาพัวพันเรื่องความรักของทั้ง 4 สาว ที่ทำให้หลายคนที่ดูตอนแรก ต่างก็อยากรู้ว่าผู้ชายตัวต้นเรื่องความวุ่นวายนั้นคือใคร เรื่องนี้ก็สามารถเล่าเรื่องออกมาได้อย่างละมุน ไม่ทำให้คนดูสับสน เรียกว่าเข้าใจเนื้อเรื่องง่ายมาก เพราะไม่มีอะไรที่ซับซ้อนจนเกินไป
เรื่องย่อ
เป็นเรื่องราวของ “ริโอะ ยาซากิ” (ฟุมิโนะ คิมูระ) นักเขียนบทละครชื่อดัง กับชื่อผลงาน Tokyo Doll house ที่กลายเป็นไอคอนเรื่องความรักสำหรับผู้หญิง แต่ภายหลังจากที่ประสบความสำเร็จในครั้งนั้น “ริโอะ” ก็ไม่มีผลงานใหม่ที่โดดเด่นหรือดีกว่าเรื่องนั้นเลย ทำให้ “ชินยะ ทามูระ” (เคะอิ ทะนะกะ) โปรดิวเซอร์คู่ใจเธอปิ๊งไอเดีย จัดงานพูดคุยและแจกลายเซ็น พร้อมทั้งให้แฟนๆ บอกเล่าเรื่องราวความรักของตัวเอง แต่แล้วทั้งคู่กลับสะดุดกับเรื่องความรักของ 4 สาว ที่มีให้กับชายเพียงคนเดียวที่ชื่อ “อิโตะ”
ดูได้ที่ลิงค์ : www.netflix.com
7. RE:MIND
คะแนน IMDb : 5.0
RE:MIND ชื่อไทย “จิต:พิศวง” เป็นแนวระทึกขวัญ ฉายเมื่อปี 2017 เรื่องราวจะเน้นไปที่การสนทนาของเด็กนักเรียนหญิง 11 คน ที่ถูกจับมาขังไว้ที่ห้องแห่งหนึ่ง โดยได้ศิลปินไอดอลญี่ปุ่น Keyakizaka46 มารับหน้าที่เป็นนักแสดงนำ ต้องบอกก่อนว่าเรื่องนี้ นอกจากจะได้ลุ้นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว เรายังได้เห็นถึง การสะท้อนสภาพสังคมที่เกิดจากการบูลลี่ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องเลวร้าย ที่ส่งผลหลายอย่างกับชีวิตมากๆ ในเรื่องนี้ก็จะถ่ายทอดออกมาให้เห็นเป็นรูปธรรมมากขึ้น
เรื่องย่อ
เป็นเรื่องราวของเด็กนักเรียนหญิง 11 คน ที่ถูกจับมาขังไว้ที่ห้องแห่งหนึ่ง โดยทั้งหมดถูกล็อกขาและถูกคลุมศีรษะด้วยผ้าแดง ซึ่งทั้งหมดก็จำไม่ได้ด้วยว่ามาอยู่ในห้องนี้กันได้อย่างไร เลยทำให้ทั้งหมดต่างหาว่าทำไมพวกเธอถึงมาอยู่ที่แห่งนี้ ใครเป็นคนพามา และระหว่างที่ไขข้อข้องใจนี้ เพื่อนๆ ที่ถูกจับตัวมาพร้อมกันก็หายไปทีละคน พร้อมๆ กับความลับในอดีตที่เริ่มถูกเปิดเผย
ดูได้ที่ลิงค์ : www.netflix.com
8. My Husband Won’t Fit
คะแนน IMDb : 6.5
My Husband Won’t Fit ชื่อไทย “รักนี้มีขนาดเข้ามาเอี่ยว” เรื่องนี้ฉายปี 2019 เป็นแนวเรื่อง โรแมนติก, ดราม่า ที่สะท้อนเรื่องราวปัญหาการใช้ชีวิตคู่ของสามีภรรยา โดยเฉพาะเรื่องบนเตียงที่มีปัญหากันแต่ก็ไม่อาจเปิดใจคุยกันถึงเรื่องนี้ได้ ซึ่งในเรื่องก็หยิบประเด็นที่เป็นปัญหาของชีวิตคู่ อย่างเรื่องเซ็กซ์มานำเสนอได้อย่างละมุนมากๆเลย ผ่านตัว 2 นักแสดงนำอย่าง “นัตสึมิ อิชิบาชิ” และ “อาโออิ นากามูระ”
เรื่องย่อ
เป็นเรื่องราวของ “คูมิโกะ” (นัตสึมิ อิชิบาชิ) สาวบ้านนอกขี้อาย กับรุ่นพี่ “เคนอิจิ” (อาโออิ นากามูระ) ที่เรียนกอยู่มหาวิทยาลัยเดียวกันและอยู่หอพักเดียวกัน เพราะความใกล้ชิดสนิทสนมทำให้ทั้งคู่ตกลงที่จะคบหาเป็นแฟนกัน จนทั้งคู่ได้ออกเดทด้วยกัน แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด เมื่อทั้งคู่เริ่มมีความสัมพันธ์กันลึกซึ้ง แต่ก็ไม่สามารถปฏิบัติภารกิจให้เสร็จสิ้นได้ แต่ถึงอย่างไร “เคนอิจิ” ก็รัก “คูมิโกะ” จนกระทั่งทั้งคู่ตกลงแต่งงานกัน
ดูได้ที่ลิงค์ : www.netflix.com
9. Legal V
คะแนน IMDb : 5.7
Legal V ชื่อไทย “ทนายซ่าท้าคดีโหด” เรื่องนี้ฉายปี 2018 เป็นแนวดราม่า, กฎหมาย ที่ได้นักแสดงนำอย่าง “เรียวโกะ โยเนะกุระ” นางเอกมากด้วยฝีมือ ที่เคยโด่งดังมาแล้วจากซีรีย์เรื่อง Doctor X ที่แค่เห็นชื่อของเธอคนนี้ก็รู้เลยว่าเรื่องนี้ต้องน่าดูอย่างแน่นอน แถมในเรื่องยังสอดแทรกความรู้ในเรื่องของกฎหมายให้คนดูได้ดูแบบไม่หนักจนเกินไปด้วย
เรื่องย่อ
เป็นเรื่องราวของ “ทาคานาชิ โชโกะ” (เรียวโกะ โยเนะกุระ) อดีตทนายแต่ต้องถูกปลดจากหน้าที่กลางอากาศ เธอจึงโน้มน้าวให้ “ศาสตราจารย์เคียวโกคุ” เปิดบริษัทกฎหมาย รวมถึงยังจ้าง “อาโอชิมะ” คนที่เธอเคยสัมภาษณ์งานให้มาเป็นผู้ช่วยในครั้งนี้ ซึ่งลูกค้ารายแรกที่ต้องว่าความ คือ “ยาสุดะ” หัวหน้าแผนกบริษัทเคมี ที่ถูกกล่าวหาว่าลวนลามผู้หญิงบนรถไฟฟ้า ซึ่งในความเป็นไปได้นั้น ในการชนะคดีมีน้อยมากถึงมากที่สุด แต่ “โชโกะ” จะสามารถทำได้สำเร็จหรือไม่ ต้องมาลุ้นดูกัน
ดูได้ที่ลิงค์ : www.netflix.com
10. How to Eliminate My Teacher
คะแนน IMDb : 4.8
How to Eliminate My Teacher ชื่อไทย “สมการกําจัดครู” เป็นเรื่องแนวระทึกขวัญ ฉายปี 2020 เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับครู-นักเรียน ที่ดูเป็นไม้เบื่อไม้เมากัน ซึ่งเรื่องนี้จะได้เห็นแนวทางที่ครูคนหนึ่งแนะแนวให้กับเหล่านักเรียนหัวโจก ซึ่งก็สามารถนำมาปรับใช้ได้ แต่ติดเรื่องการเดินเรื่องที่แรกๆ ดูสนุกน่าติดตาม แต่พอดูไปเรื่อยๆ กลับเนื่อยๆ เอาซะได้
เรื่องย่อ
เรื่องราวเกิดขึ้นที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในโตเกียว ที่มีอัตรานักเรียนที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำ อย่าง มหาวิทยาลัยโตเกียว ได้เป็นจำนวนมาก แต่หารู้ไม่ว่าครูประจำชั้นของ ปี 3 ห้อง D ที่มี 4 หัวโจก “ฟุจิวาระ โทยะ” (ทาคาฮาชิ ฟุมิยะ), “นากาอิ ยูมิ” (คุโบตะ ซายุ), “สุรุงิ ริกิ” (ทาคาฮาชิ นาโอะ) และ “โอคิ นากิ” (โมริตะ โคโคโระ) ต่างถูกทั้งหมดแกล้งจนต้องลาออกไปหลายคนแล้ว กระทั่งได้มาเจอกับครูประจำชั้นคนใหม่ ชื่อ “โยชิชาวะ สีเนโอะ” (ทานากะ เดย์) ที่มาพร้อมรอยยิ้มปริศนา เรามาดูกันว่า เขาจะสามารถอยู่เป็นครูประจำชั้นได้หรือไม่
ดูได้ที่ลิงค์ : www.netflix.com
ครบถ้วนกันแล้ว กับ 10 ซีรีย์ญี่ปุ่น Netflix..สนุกครบ จบฟิน! ที่แต่ละเรื่องเราคัดสรรมาเพื่อเอาใจคอซีรีย์โดยเฉพาะ เรียกว่าชอบแนวไหนก็สามารถดูกันได้แบบชิลๆ หลากรส หลายแนว ซึ่งแต่ละเรื่องนั้นรับรองความสนุกสนานอย่างแน่นอน
เครดิตภาพ : trueid.net, minimore.com, imdb.com, readthecloud.co, netflix.com, mydramalist.com, minimore.com, mydramalist.com