
IT’S OK THAT LOVE ถ้ารักกัน…มันก็โอเค“จางแจยอล”นักเขียนนิยายชื่อดัง เขานั้นเป็นโรคย้ำคิดย้ำทำ เขานั้นต้องมาเจอกับ“จีเฮซู” แพทย์เฟลโลว์ ปี1 ประจำภาควิชาจิตเวชศาสตร์ ในรายการทอร์คโชว์รายการหนึ่ง ทั้งคู่ต้องมาดีเบตโชว์กึ๋นกันในรายการสด แต่ต่างฝ่ายนั้นไม่มีใครยอมใครเลย แต่แล้วก็มีเหตุให้ทั้งคู่นั้นต้องบังเอิญมาเจอกันในบ้านหลังเดียวกัน ซึ่งแรกๆทั้งคู่นั้นเหมือนจะไม่ถูกหน้ากันสักเท่าไหร่ แต่นานวันความสัมพันธ์ก็ค่อยๆแปลเปลี่ยนเป็นความรัก “จีเฮซู”มารู้ทีหลังว่า“จางแจ
ยอล”นั้นเป็นโรคจิตชนิดหนึ่งที่เกิดจากปมฝังใจในวัยเด็ก เธอนั้นจะรักษาเขาให้หายได้หรือไม่ แล้วความรักของทั้งคู่นั้นจะลงเอยอย่างไรไปติดตามชมต่อกันได้เลย
Credit : https://www.flixwatch.co/
“จางแจยอล”นักเขียนนิยายแนวลึกลับและดีเจชื่อดัง เป็นคนโรแมนติกขี้เล่น มีเสน่ห์ต่อเพศตรงข้ามอย่างมาก แต่ภายในใจเขานั้นกลับซ่อนปมบาดแผลใหญ่เอาไว้ และส่งผลให้เขานั้นเป็นโรคย้ำคิดย้ำทำ ในงานเลี้ยงวันเกิดของเขานั้นเขาถูกพี่ชายของเขา“จางแจบอม”ที่เพิ่งออกจากคุกคดีที่เขานั้นฆ่าพ่อเลี้ยงจนตาย เข้ามาทำร้ายเขาจนเขานั้นได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นกัน ข่าวที่เขานั้นโดนทำร้ายกลายเป็นคดีชื่อดังเพราะเขานั้นเป็นนักเขียนชื่อดังอยู่แล้ว และเขาก็ได้ประกาศออกสื่อไปว่าเขานั้นจะเลิกเขียนหนังสือแล้วทำให้แฟนๆของเขานั้นต่างพากันเสียดาย
รวมถึง“จีเฮซู” แพทย์เฟลโลว์ ปี1 ประจำภาควิชาจิตเวชศาสตร์ เธอเป็นหมอที่เก่งและฉลาด ทะเยอทะยาน แต่เธอนั้นมีอคติทางด้านความรัก กลัวการผูกมัด และเป็นโรคที่กลัวการมีเพศสัมพันธ์ เธอนั้นกำลังนั่งดูข่าวของ“จางแจยอล”ทางทีวีอยู่จึงบ่นออกไปว่านี่นักเขียนหรือดารากันแน่มีข่าวออกทีวีใหญ่โต และบ่นเสียดายที่เขานั้นจะไม่เขียนนิยายต่อแล้ว เพราะเธอเป็นแฟนนิยายของเขาและรอนิยายเล่มใหม่อยู่
Credit : www.pinterest.com
“จางแจยอล”และ“จีเฮซู” ต้องมาพบเจอกันที่รายการทอร์คโชว์รายการหนึ่ง ทั้งคู่ต้องมาดีเบตโชว์กึ๋นกันในรายการสด แต่ต่างฝ่ายนั้นไม่มีใครยอมใครเลย ซึ่งเป็นการพบหน้ากันครั้งแรกที่ต่างฝ่ายต่างไม่ชอบหน้ากันเอาเสียเลย แต่แล้วทั้งคู่นั้นก็ต้องบังเอิญมาเจอกันอีกครั้ง เมื่อ“จางแจยอล”ได้เข้ามาอาศัยอยู่ร่วมบ้านกับ“จีเฮซู” ซึ่งก่อนหน้านี้“จีเฮซู”อาศัยอยู่กับ”โจดองมัน”แพทย์รุ่นพี่ของเธอและ”ซูกวัง” แต่ที่จริงแล้วบ้านหลังนี้เป็นของ“จางแจยอล”ที่เขานั้นแบ่งห้องทำเป็นห้องให้เช่าไว้
“จางแจยอล”และ“จีเฮซู”ต้องอดทนที่จะอาศัยอยู่ร่วมบ้านเดียวกันเพราะไม่อยากที่จะมีปัญหา แต่แล้วนานวันเข้าความสัมพันธ์ของทั้งคู่นั้นก็ค่อยๆแปลเปลี่ยนเป็นความรัก ความรักของทั้งคู่นั้นก็หวานกันซะไม่สนใจเพื่อนร่วมบ้านอย่าง”โจดองมัน”และ”ซูกวัง” คือฉากหวานๆเนี่ยๆทั้งคู่แสดงออกมาได้ดีมาก ฟินจิกหมอนอย่างมากเลย ดูแล้วอมยิ้มไปด้วยเลย จะเรียกว่าบ้าเลยก็ได้ เพราะจู่ๆก็นั่งยิ้ม
Credit : www.pinterest.com
แต่แล้วความรักของทั้งคู่ก็เกิดปัญหาเมื่อ“จีเฮซู”เจอปัญหาในตัวของ“จางแจยอล” ว่าเขานั้นเป็นโรคจิตเภท เพราะเขามักจะพูดถึงเด็กนักเรียนชายคนหนึ่งให้เธอฟัง”คังวู” จนมีเหตุการณ์ที่เขาบอกเธอว่าเด็กนักเรียนชาย”คังวู”คนนั้นโดนพ่อทำร้ายร่างกาย เขานั้นได้เข้าไปช่วยมา เธอจึงไปไล่ดูตามกล้องวงจรปิดแล้วไม่พบเด็กนักเรียนชายที่เขาพูดถึงเลย เขานั้นยืนต่อสู้กับอากาศอยู่ เธอจึงได้บอกความจริงกับเขาไปว่า”คังวู”คือคนที่เขานั้นสร้างขึ้นมาเองจากบาดแผลในใจของเขา จากเรื่องที่โดนพ่อเลี้ยง
ทำร้ายทุบตีอย่างหนัก หรือจากพี่ชายของเขาเอง จนเกิดเป็นปมรอยแผลในใจอย่างใหญ่หลวง และเธอก็ได้พาเขาเข้าไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล
Credit : www.pinterest.com
ระหว่างที่เขารักษาตัวอยู่นั้น ก็มีข่าวเกี่ยวกับตัวเขาออกไปมากมาย ว่าเขานั้นแกล้งป่วยเพื่อที่จะสร้างภาพให้ตัวเองนั้นน่าสงสาร และอยากที่จะเรียกเรตติ้งให้ตัวเองมากกว่า แต่เขานั้นก็ไม่ได้ใส่ใจกับคำพูดเหล่านั้นเลย เขาพยายามรักษาตัวและเข้ารับการบำบัดต่างๆมากมายจนเขานั้นกลับมามีสภาพจิตใจที่ดีขึ้นกว่าเดิมมาก เขาและพี่ชายของเขาต่างก็ได้เคลียร์ปัญหาที่ค้างคาใจกันมานาน จนกลับมารักกันได้เหมือนเดิม
เมื่อเขารักษาตัวจนอาการดีขึ้นก็กลับมาใช้ชีวิตรักกับ“จีเฮซู”อย่างมีความสุข พร้อมกับลูกน้อยของเขาที่อยู่ในท้องของ“จีเฮซู”ที่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้านี้
Credit : www.pinterest.com
เรื่องนี้ครบรสมากแรกก็จะคอมมาดี้นิดๆ กลางเรื่องก็คือโรแมนติก หลังๆนี่ดราม่าขั้นสุด แต่ก็สนุกครบเครื่องดี เพราะนางก็เคมีเข้ากันได้ดี ฉากหวานๆนี่จิกหมอนมากพูดเลย เรื่องนี้สะท้อนถึงปัญหาโรคจิตเภทได้ดีทีเดียว เพราะภายนอกนั้นก็เหมือนคนทั่วๆไปไม่มีอาการอะไร แต่แท้จริงแล้วเขากำลังเผชิญกับปัญหาของโรคนั้นอยู่ ใครที่ยังไม่ได้ดูลองไปหาดูกันนะ